วันอังคารที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2556

REVIEW+MINI HOW TO!!!! [ MAE LEARB LIPS WAX ] สีผึ้งแม่เลียบ ของดีของถูก MADE IN THAILAND แก้สารพัดปัญหาปากแห้ง แตก ลอก คล้ำ บลาๆๆๆ






ตัวเราเองเป็นคนที่ปากแห้งแตกลอกง่ายมากๆ  แบบเลียปากไปสักพักก็เริ่มแห้งๆตึงๆละ
เราเองก็เสาะแสวงหาลิป บาล์ม ลิปมัน ต่างๆนานา แต่มันก็ได้ผลไม่เท่าไรแถมราคาเป็นร้อย
ก็เสิร์ชดู จนไปเจอสีผึ้งตัวนึงที่โด่งดังใน พันทิป









ใช่ล้าวววววววว   สีผึ้งแม่เลียบนั่นเองงง  ที่คุณภาพล้ำราคามากๆๆๆๆๆๆๆ
ช่วยแก้ปัญาหาปากแห้งแตกลอกได้อยู่หมัด แถมใช้ไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าปากชมพูขึ้นนิดๆด้วยแหละ
ไม่มีสารกันเสีย ไม่มีสี น้ำหอม ธรรมชาติ ล้วนๆเลย ทั้งหมดมาในราคา 25 (แล้วแต่ร้าน)

ซึ่งตลับนึงเราใช้ได้ประมาณเดือนนึงนะ เลยต้องสั่งมาหลายๆตลับ
 แต่ด้วยราคาที่ถูกม้ากกกเลยไม่ซีเรียส

แต่.......
ด้วยความที่มันเป็นขี้ผึ้งมันจะเหนี่ยว กรัง หนึบหนับ เลยทีเดียว ชนิดว่าเม้มปากแล้วหนึบอะ
ดูเนื้อเลย  เราแนะนำให้ทาก่อนนอน หรือวันที่อยู่บ้านนะ ทาก่อนแต่งหน้านี่ไม่ไหวอะ ลิปนี่เป็นคราบ
ก่อนนอนเราโปะๆ ไว้เลยตื่นมาปากเนียน นุ่ม ทาลิปง่าย



ให้คะแนน

ความชุ่มชื้น  5/5
เหนียวเหนอะหนะ 5/5
ซึมเร็ว 0/5
กลิ่นหอม 3/5
ราคา 5/5
ความพอใจ 5/5

ข้อดี  ราคาถูกมากกกก  ไม่ต้องถามถึงคุณภาพ มันล้นเกินราคาไปมากแล้ว 
ข้อเสีย  เหนียวหนืดหนุบหนับ ตามแบบฉบับขี้ผึ้ง กลิ่นเป็นกลิ่นน้ำอบฟุ้งๆ อาจจะไม่ชอบกัน (แต่เราชอบ)
อาจจะหาซื้อยากนิดนึงต้องสั่งในเว็บเป็นส่วนใหญ่ 







อะเครเกริ่นมาพอสมควรละ 
มาดู how to สั้นๆ ฟื้นฟูปากแตกในหน้าหนาวด้วยสีผึ้งแม่เลียบในแบบของเรากัน :)







เริ่มด้วยภาพ  Before อันสยองขวัญเลย
โอ้ นี่มันดินหน้าแล้งแถบภาคอีสานรึเปล่านี่ (นี่ยังน้อยนะ เคยแตกมากกว่านี้)




ก่อนจะทาสีผึ้งเราจะเอาน้ำลูบปากให้เปียกๆก่อนเพื่อให้หนังที่ลอกอยู่นุ่มลง จะได้ทาง่ายๆ 
และช่วยให้เจ้าสีผึ้งทำงานโดยง่ายดาย (มั้ง o,O)

เราใช้ปริมาณประมาณนี้ลงก่อน ถ้าไม่พอค่อยเพิ่มทีละนิด ความจริงไม่จำเป็นต้องพอกเยอะมาก 
เปลืองเปล่าๆ เพราะยังไงมันก็ซึมได้ไม่เท่าไหร่เอง มันจะเคลือบมากกว่า 



ปาดๆลงไปซะะะะ


โดยปกติเราจะทาทิ้งไว้ก่อนนอน  แต่ตอนนี้ถ่าย ตอนเช้า (แสงมันสวยดี) 
how to นี้เราจะทาทิ้งไว้ 2 ช.ม. จ้ะ


โอเค ตื่นนอนแล้ว หรือ ครบเวลาแล้วเราก็จะจัดการหนังที่ตายแล้วออกไปด้วย "แปรงสีฟัน"
บ้วนปากให้เปียกๆก่อน ไว้ก็เอาแปรงสีฟันถูๆวนๆเบาๆ เรื่อยๆจนเกลี้ยงเนียน
ถูตอนที่ขี้ผึ้งยังอยู่บนปากนี่แหละ
(อย่าสนใจแปรงบานๆของเรา hahaha) 


ล้างออกก็เป็นอันเสร็จ ตะแน้วววว




เสร็จแล้วอย่าลืมทาลิปบาล์มเพื่อเคลือบริมฝีปากด้วยนะจ๊ะ  พยายามดื่มน้ำเยอะๆ  กินอาหารที่มีวิตามิน
เอ ซี อี อย่างเช่น องุ่น ลูกพรุน ถั่ว แครอท ต่างๆ 
ไม่อย่างนั้นปากก็จะกลับมาแตกได้อีกถ้าเราไม่ดูแล




ขอปิดท้ายด้วยลิปชมพูหวานๆนะจ๊ะ 




Thank you for watching




















วันอังคารที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2556

illamasqua lipstick #brink swatch&review [yellow undertone skin]




กำลังมองหาลิปติกสีคอรัลสวยๆ เนื้อแมตๆรึเปล่า???

วันนี้จะมารีวิวลิปสติกสีสวยสุดเลิฟของเราตอนนี้ และเป็นอีก 1 สีที่ขายดีของ illamasqua ด้วย

นั่นก็คือ illamasqua สี BRINK นั่นเอง!!!!!!!!!




อย่างที่รู้ๆกันอยู่แล้วว่าลิปสติก อิลลามัสก้า หรือ อีหล้า ของเรานั้น เนื้อค่อนข้างแมตมากๆๆๆๆ
ซึ่งเราจะไม่แนะนำสำหรับคนปากแห้ง ปากลอกเท่าไหร่  เพราะมันจะน่าเกลียดมากกกกก
เป็นคราบแบบสุดๆ       
เอาง่ายๆนะ   นึกภาพกระดาษที่ถูกขยำยับยู่ยี่เป็นก้อน แล้วเอาสีอะคีริคปาดลงไป มันน่ากลัวขนาดไหน  เพราะฉะนั้น ก่อนจะปาดสิ่งนี้ลงไปควรทำให้ปากชุ่มชื้นเรียบเนียน  ค่อยทาแล้วจะสวยมาก

เราแนะนำให้โปะลิปบาล์ม ก่อนนอน (เราใช่สีผึ้งแม่เลียบ 25 บาทถูกและเริ่ดมากๆ) ตื่นมาแล้วเอาแปรงสีฟันถูๆๆ วนๆ เบาๆ ปากจะเนียนเรียบแล้วค่อยแตะลิปบาล์มเบาๆ ไม่ต้องเยอะซับลิปมันแล้วทาเลย
            ตัวนี้เม็ดสีแน่นมาก ทำให้เราไม่จำเป็นต้องทาลิปคอนซีลเลอร์ก่อน มันกลบสีปากได้มิด ทาสัก 2 รอบ สีตรงตามแท่งเลย

โอเค  พล่ามเยอะละ ไปดูสวอชสีที่ปากของเรากัน


อันนี้เราพยายามปรับแสงให้ตรงกับสีที่สุดแล้ว สีจริงๆจะตรงกับภาพข้างล่างที่สุดจ้ะ



เป็นสีที่ทาได้ทุกวัน หน้าจะสดใสขึ้น 

เอาไว้ให้ดูสำหรับคนที่อยากรู้ว่า undertone เหลืองทาแล้วจะออกมาเป็นไง ก็ประมาณนี้จ้ะ
ผิวเรานี่เหลืองแต๊ๆเลย ไม่แทน ไม่ขาว อะไรทั้งนั้น (ตกใจใช่มั้ย เราเตือนคุณแล้ว hahahaha)


แอบเอามาติ๊ต่างเป็นครีมบลัชก็ได้เน้อออออ อิอิ

ข้อดี   เนื้อแมต ติดทนนาน สีชัดเจน อะแดปเป็น cream brush หรือ cream eye shadow blush ก็ได้ ราคาสูงนิดๆแต่พอรับได้ 850 บาท
ข้อเสีย ด้วยความที่เนื้อมันด้านมาก แห้งมาก จึงไม่เหมาะกับคนปากแห้ง ต้องบำรุงก่อน

ให้คะแนนตามนี้้

เนื้อผลิตภัณฑ์  4/5
เม็ดสี  5/5
กลิ่น  3/5
คงทน  5/5
กันน้ำ 5/5
ราคา  3.5/5
ความพอใจ  5/5

thank you for watching
bye


วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556



เข้าสู่เดือนเมษา แล้วนะคะ เป็นที่รู้ๆกันว่าแดดประเทศไทยนั้นร้อนแรงมากกกก lol 
ดังนั้นเราจะมาใช้แดดให้เป็นประโยชน์ละกันเนาะ 
พอดีช่วงนี้ปิดเทอมเราเลยหางานพิเศษทำที่ร้านอาหาร 
และได้เห็นว่ากากกาแฟที่ได้จากการทำกาแฟสดนั้น เค้าทิ้งทุกวันเลย 
ประกอบกับได้ไปอ่านกระทู้ของพี่คนนึงใน ห้องแป้ง ถึงการนำกากกาแฟมาทำ สครับ
ก็เลยขอคุญลุงมาซะเลย 555  


แต่เนื่องจากกากกาแฟนั้นค่อนข้างขึ้นราได้ง่าย  เราจึงต้องนำมาตากแดดซะก่อนเพื่อให้มันแห้งสนิท
เหมือนกับการถนอมอาหารน่ะค่ะ จะได้มีไว้ใช้นานๆ

แถมตอนตากนี่  หอมมากๆเลย







วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

REVIEW&HOW TO MAC select cover-up concealer



เป็นโพสแรกนะคะ สมัครไว้นานแล้วแต่เพิ่งจะมาเล่น

วันนี้จะมาแนะนำ คอนซีลเลอร์ดีๆ ที่ใช้เป็นประจำนะคะ ซึ่งชอบที่สุด คือ

"MAC select cover-up"

สีที่ใช้   nw20    790฿







































สีนี้มันจะค่อนข้างขาวกว่าผิวจริงเฉดนึง ปกติใช้เบอร์ nw25 แต่เราอยากได้สว่างกว่าเล็กน้อย
ความจริงเราอันเดอร์โทนเหลืองนะ แต่พี่ BA เลือก NW มาให้เพราะมันเป็นโทนชมพู ส้มๆ มันจะได้
หักล้างกันกับสีแพนด้าเขียวๆ ดำๆ ของเรา >_<




















texture ของมันจะเป็นเหมือนคอนซีลเลอร์แบบน้ำ แต่ว่าเข้มข้นกว่า และเม็ดสีค่อนข้างแน่นเลยทีเดียว
เรียกได้ว่าเอาแพนด้าตัวแม่ของเราได้อยู่หมัด เนื้อเกลี่ยง่ายไม่แห้งเร็ว เนียนสวย ธรรมชาติ ชอบมาก
ชอบทุกอย่าง ระหว่างวันก็ตกร่องบ้างนะเพราะเราเป็นคนที่มีร่องใต้ตาเยอะ แต่ก็ยังตกร่องน้อยกว่าตัว studio finish และตัวอื่นๆที่เคยใช้มา     แต่เสียอยู่อย่างเดียวคือ เอาน้ำลูบๆทีเดียวออกเลย T_T
เราก็ไม่เข้าใจว่ามันอยู่ทนทุกสภาพแวดล้อมได้อย่างดี  ไม่เป็นคราบ  แต่มาเสียท่าให้น้ำและน้ำตา
แต่ยังไงก็เป็นคอนซีลเลอร์ลูกรักอยู่ดี >_<

ให้คะแนน

เนื้อผลิตภัณฑ์  5/5
ความบางเบาเป็นธรรมชาติ  4/5
การปกปิด  5/5
เม็ดสี  5/5
กลิ่น  3/5
คงทน  4/5
กันน้ำ 0/5
ราคา  3.5/5
ความพอใจ  4.5/5

มาดู how-to เล็กๆกันต่อเลยค่ะ






before ค่ะ

โดยปกติจะเป็นคนที่ใต้ตาคล้ำมากๆ เนื่องจากภูมิแพ้ ขยี้ตา และนอนดึก











แต้มคอนซีลเลอร์ลงไป ตามจุดที่คล้ำ ไม่ต้องบีบเยอะนะคะเพราะผลลัพธ์ที่ได้อาจ
ตรงข้ามกับที่เราต้องการ แต่เราจะค่อยๆเติมลงไปทีละชั้นๆค่ะ












จากนั้นเกลี่ยให้ทั่วๆไปก่อน












ใช้นิ้วกลางหรือนิ้วนางกดเบาๆ เบาที่สุดแล้วมันจะกลืนไปเอง












ชั้นแรก












ลงชั้นที่สองเราจะป้ายเนื้อคอนซีลเลอร์ที่หลังมือก่อนให้ติดเนื้อมันไม่มาก
แล้วก็ค่อยๆกดเหมือนขั้นตอนข้างบน ต้องกดเบาๆนะคะ ไม่งั้นคอนซีลเลอร์อาจ
หลุดติดนิ้วมาก็ได้นะ













เห้!!!ชั้นที่สอง













ก่อนลงแป้งอย่าลืมเช็คใต้ตานะว่าที่เราลงไป มันตกร่องหรือเปล่า
ถ้าตกร่องก็แตะคอนซีลเลอร์นิดนึงมาป้ายหลังมือก่อนแล้วค่อยกดย้ำๆไปให้ร่องหาย












ลงแป้งโปร่งแสงก็เสร็จ เราใช้แปรงลงโดยเอาแปรงวนๆแป้งที่ฝาก่อน
แล้วกดๆ เบาๆให้ทั้ว แล้วค่อยปัดส่วนเกินออก














finish!!!!!!!!












โบกทั้ง2ข้าง












ทำตาดุ LOL













Thank you for watching
bye