วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2557

REVIEW:สรรพสิ่งจาก Maybelline + how to แต่ง up ตาโตวิ้งๆ และแอบมีกระเบาๆ


           สวัสดีค้าบ ใกล้เข้าหน้าหนาวแล้วเนอะ แต่อากาศเมืองไทยก็ยังคงร้อน แดดเปรี้ยง อยู่เหมือนเดิม
จากที่ชอบใช้รองพื้นแบบ dewy look โกลว์ๆ ตอนนี้เราเริ่มอยากจะหารองพื้นที่คุมมันบ้างละ
ประจวบกับ เจ้า maybelline super mineral 24 foundation ออกมาพอดี๊พอดี แล้ววัตสันก็จัดโปร
ก็เลยไปสอยมาเลย
           แล้วเราก็ได้ไปเล่นกิจกรรมของเมเบลลีน โชคดีเลยได้รางวัลมาด้วยเลย
ต้องขอบคุณมากๆเลยนะคะ ไม่คิดเลยว่าจะได้ ดีใจมากเวอร์
เราได้เป็น  big eyes mascara กับ big eyes lovebag liner  ก็เลยกะว่าจะมารีวิวพร้อมๆกันเลย
รีวิวพร้อมๆไปกับ ฮาวทูนี่แหละ ฮ่าๆๆ
ชมพูสวยถูกจริตจีๆ
     ทีแรกเราตั้งใจให้ออกมาเป็นลุคลูกครึ่งหน่อยๆ แอบมีกระ แล้วก็ตาวิ๊งๆ แต่แต่งเสร็จดันไม่ลูกครึ่งซะงั้นอะ เราก็เลยไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อว่าลุคอะไร ฮ่าๆ(หน้าก็กลมซะขนาดนี้ ดั้งก็งี้ ไม่รู้จะเอาอะไรไปฝรั่ง)

-ลุคนี้เราอยากได้ผิวแบบ healthy glow ไม่ใช่แบบ หน้าฉ่ำเยิ้ม หรือ shimmer glow 
เอาแบบ สุขภาพดี ใสใส เหยย รองพื้นคืออัลไล ไม่รู้จัก มีกระนิดๆ ไม่คอนทัวร์หนัก

-แต่งให้ตาโต แต่ไม่เยอะเกินไป ดวงตาเป็นประกายราวกับอัญมณี ขนตาฟู เอาพอสวยๆใสๆ ผู้ชายไม่กลัว(มั้ง555)

-คิ้วหนา แต่ก็แอบหักมุมนิดๆ ปากเบาๆ ทาให้ระเรื่อไม่เอาเป็นแบบปาดลิปสติก 

ปล. เพิ่งทำครั้งแรก อาจจะย่ำแย่หน่อยนะ บางภาพกล้องก็ไม่โฟกัส ภาพเบลอๆ เพราะบางทีคนแต่งก็เบลอๆ

มาดูของที่ใช้กันค่ะ

base make-up

1. Hada labo perfect gel
2. Maybelline super mineral 24 healthy long lasting foundation #B02
3. M.A.C  studio finish concealer #nw25
4. Mistine BB baby face loose powder (ตัวนี้เรา recommend เลย คือมันเหมือนตัวตายตัวแทนของ LM loose setting powder #translucent ก็ว่าได้ เนื้อแป้งอาจจะไม่ละเอียดเท่า มันจะฝุ่นๆกว่าหน่อย แต่รับรองได้ว่าคุมมันได้ดีกว่า แล้วแป้งก็ไม่ดรอป ไม่เปลี่ยนสีรองพื้นด้วย ไม่อุดตัน เราได้มาในราคา 95 บาท กับปริมาณ 15g เลิศๆๆ)

 Lips & Cheeks
1. Sleek blush #life's a peach 
2. Sleek face contour kit #light
3. Revlon colorburst lip butter #015tutti frutti


Eyes make-up
1. Daiso double eyelid aloe
2. Catrice eyebrow pencil #ash brown
3. Cathy doll eyebrow cara #03dark chocolate (ตัวนี้สีติดดี แต่มีวิ๊งนิดหน่อย รู้สึกสีนี้เข้มสุด แต่มันก็ยังออกสว่างอยู่ดี ปลื้ม)
4. In2it water proof gel liner #dark brown
5. Maybelline lovebag big eyes liner#baby pink
6. Maybelline the falsies big eyes volum'express
7. Sleek divine eyeshadow palette #oh so special (รูปด้านล่างจ้ะ)




หน้าสด จุ๊บุ จิบิค่ะ สดจนวินมอไซต์แถวบ้านไม่กล้าแซว  หนังหน้าก็สิวบุกเต้มมเลย หน้าไม่ไหว แต่ใจหนูพร้อมค่ะ
















                การที่จะทำให้ตาโตขึ้นนั้น ชั้นตาสำคัญค่ะ เคยสังเกตุไหม ผู้หญิงที่ชั้นตาหนาๆ เวลาแต่งตาออกมา ตาจะดูโตสวยกว่าชาวบ้านเขา   ชั้นตาที่หนาขึ้นทำให้ตาโตขึ้นได้จริงๆค่ะ แต่ต้องทำให้เนียนๆไม่งั้นมันจะดูแปลกไปเลย
    เราเคยใช้เทปติดมาแทบทุกแบบ ทั้งสีใส สีเนื้อ เทปสองหน้า สองแบบแรกมันจะดูออกชัดเลยว่าเราติด 
ถ้าไม่แต่งหน้าแบบจริงๆ อาจดูเหมือนมีสก็อตเทปที่ใช้แล้วติดตาอยู่ได้ค่ะ
     ส่วนแบบเทปสองหน้า เราก็ชอบนะมันเนียนกว่าแบบแรก แต่ข้อเสียมันก็เยอะ
-เวลาเราดึงออก ด้วยความที่มันเป็นเทปใสสองหน้ามันจะติดกับแผ่นพลาสติกใสอะค่ะ 
ตอนเราดึงมันก็ติดมาแต่กระดาษที่ปิดเทป แล้วมันจะเสียไปเลยค่ะ ต้องระวังมากๆ ใช้ไม้เล็กๆดึงเอา
-บางทีระหว่างวัน เจอเหงื่อ เจอความมัน เทปมันก็จะแล่บออกมาตรงหัวตาบ้าง หางตาบ้าง แล้วดูน่าเกลียดเลย
อันนี้แล้วแต่วัน บางวันก็ไม่เป็น
-เวลาหลับตาจะรู้สึกได้ว่ามันตึงจริงๆ แล้วก็เสียวมันจะแคว่ก หลุดออกมาด้วย ตอนลอกออกก็เจ็บ นานๆเข้าก็แสบหนังตาเลย
ควรลอกออกตอนล้างหน้านะคะ

   ด้วยเหตุทั้งหมดทั้งมวลนี้เราเลยเลือใช้แบบกาวค่ะ เพราะเป็นธรรมชาติ ติดโคตรทน ไม่ต้องเจ็บหนังตาเพราะการดึงแคว่ก
ถ้าทำเป็นคือจะเร็วมาก
ข้อเสียคือ อย่าทาหนามากเพราะมันจะแห้งช้าและเป็นคราบ และอย่าถูกาว จะเป็นคราบเช่นกัน
ตัวที่ใช้อยู่คือของ ร้านไดโซ ค่ะมี2สี เหมือนกันแต่สีเขียวจะมีตัวบำรุง
อย่าเพิ่งทาครีมนะ เดี๋ยวกาวมันจะไม่อยู่ ทำก่อนลง skincare
1. เอาไม่คัดชั้นตา เอาความหนาที่เราว่ามันโอเค แล้วลืมตามันจะแอบมีรอยพับขึ้นมานิดนึง
2. ทากาวตามรอยพับ อย่าทาหนาเอาพอดีๆ
3. เอาไม้คัดอีกทีเพื่อย้ำ แล้วลืมตา กดช่วงรอบพับให้แนบสนิททั้วอณูที่ทากาว

เปรียบเทียบ ข้างซ้ายทำแล้ว ขวายังไม่ได้ทำ

      (ขออภัยที่รูปมันใหญ่ไป แต่เราอยากให้เห็นผิว ก่อนและหลังลงรองพื้นชัดๆ จะได้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจฮะ)
      ลงสกินแคร์เสร็จ เราก็ลงรองพื้นเลย ไม่ต้องรอนานฮาดะตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นดี และซึมเร็วมากไม่ทิ้งความมันไว้เลย
เราใช้นิ้วมือในการลงรองพื้น ค่อยๆกดๆเอา เราว่าถ้าใช้แปรงมันหนาไปอะ ใช้นิ้วมือไม่ก็ฟองน้ำไข่อะดีสุด 
      ตัวนี้จะค่อนข้างแมตนิดนึงนะ คนผิวแห้ง-ธรรมดา ไม่ต้องลงแป้งยังได้เลย คุมมันได้ดีเลยทีเดียว 
มันเป็นรองพื้นที่แมต แต่บาง ไม่เป็นคราบ(ถ้าไม่ทาเยอะ) ทาเยอะมันจะดูหนาแบบเห็นได้ชัด 
ปกปิดกลางๆ รอยชัดๆก็ปิดไม่ค่อยมิด แต่ตรงไหนที่ไม่มีรอย มันจะดูใสมาก ดูได้จากรูป จะบอกว่า สาวไทยที่ผิวขาว หรือขาวเหลือง ใช้เบอร์B02 จะดีกว่าเพราะมันจะ undertone เหลืองจะเข้ากับผิวมากกว่า เบอร์1มันออกชมพูๆ เดี๋ยวจะเทานะจ๊ะ
                     -ลงคอนซีลเลอร์ตามปกติ เราชอบใช้แปรง Detailer Brush ของ Real techniques ด้วยความที่แปรงมันเล็ก เราเลยสามารถ ควบคุมพื้นที่ในการลงได้ เพราะคอนซีลเลอร์แมคตัวนี้ เนื้อหนาและสีออกส้มๆ ซึ่งมันจะตัดกับรอยดำใต้ตาได้ดี แต่ถ้าลงเลยมาจากใต้ตามาก(บริเวณที่ฝรั่งชอบเอาคอนซีลเลอร์สีสว่างลงใต้ตาอะ ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี)

มันจะดูหลอกและดูแปลกมาก และมันจะหนาตกร่องรูขุมขนของเรา
                     -จากนั้นเซ็ตด้วยแป้งไม่มีสี เราลงเฉพาะใต้ตาที่ลงคอนซีลเลอร์ กับจมูก ส่วนบริเวณอื่นๆของใบหน้าเราไม่ลงแป้งค่ะ   เพราะอยากให้หน้าดูเฮลตี้ ไม่ใช่แมตด้าน รองพื้นตัวนี้ไม่ลงแป้งก็ไม่ดูมัน เป็น semi matte มากกว่า
                รูปด้านขวาคือเราลงบรอนเซอร์ จุดที่ลงก็แล้วแต่ใบหน้าแต่ละคนค่ะ ลองเสิร์ชดูในกูเกิ้ลเลย
แต่เราจะใช้ปลายแปรงค่อยๆวนๆ ให้มันกลืนกับผิวที่สุด คือไม่อยากให้ดูรู้ว่าคอนทัวร์ เลยออกมาดูเหมือนไม่คอนทัวร์อะไร แต่ในรูปเรายังไม่คอนทัวร์ดั้งนะฮะ
        มางัดดั้งกันค่ะ เราจะพยายามคอนทั้วแบบธรรมชาติ เน้นหัวคิ้วนิดนึง
1. ใช้สี The mail จากพาเล็ต sleek คอนทัวร์ตามปกติ
2. เราใช้แปรงหัวดินสอ แต้มบรอนเซอร์ แล้ววาด เป็นรูปเพื่อเน้นโครง อย่าลืมปลายจมูกและปีกจมูกด้วยนะ
3. ใช้แปรงปาดสีขาวแมต ระบายสันจมูกไปพร้อมกับเบลนด์ โครงที่ร่างไว้

ลงไฮไลท์ เราใช้นิ้วนี่แหละลง ปาดสีเบาๆแล้วค่อยๆกดๆให้เนียนไปกับผิว ลงตามรูปเลยค่ะ
หน้าจะดูวาวนิดๆ แต่ไม่ดูเป็น Shimmer glow
          ลุคนี้ของคิ้วหนาๆค่ะ จิงๆอยากให้ออกมาแบบ cara delevingne แต่รูปคิ้วไม่เหมือนเค้าอะ 
เอาเป็นว่าให้คิ้วหนาๆเป็นทรงธรรมชาติ ไม่ดูเป็นแบบเขียนมากอะจ่ะ

1. เราใช้ดินสอวาดเป็นสามเหลี่ยมแบบเอียงขึ้นหน่อย ยังไม่ต้องวาดหางนะ
2. ใช้แปรงหัวตัดเบลนด์หัวคิ้วให้ฟุ้งๆ แต่ไม่ฟุ้งจางๆนะ เอาให้ยังมีสี และเป็นหัวคิ้วที่หนาหน่อย
โดยเราวางแปรงเป็นแนวตั้ง แล้วปัดๆขึ้น จากนั้นปัดตรงจุดหักมุมให้ออกมาหน่อย แต่ก็ยังไม่เขียนหาง
จุดนี้จะเป็นจุดที่จะกำหนดว่าจะเขียนหางยังไงดี
3. เขียนหางจากตรงที่หักมุมลากมาไม่ต้องเยอะ ไม่ต้องเป็นทรงแหลมเจี๊ยกจนชัดไป และไม่กุด 
จากนั้นใช้แปรงหัวตัดปัดตามแนวที่เขียนหน่อย ไม่ให้มันเป็นก้อน
4. ระบายส่วนที่มันโหว่ๆ เอาแต่เติมช่องว่าง ไม่เอาถมที่นะคะ5555 อาจจะเอาสีที่ติดๆแปรงมาเบลนด์หัวคิ้วนิดนึง
เราใช้ สี boxed จากพาเล็ต Sleek #oh so special
5. ปัดมาสคาร่าคิ้ว เราจะไม่ปัดให้มันกลบสีคิ้วทั้งหมดนะ เดี๋ยวมันทองไปแล้วไม่เข้ากับผม เพราะตัวนี้สีอ่อนกว่าผมเรามาก
1. เราใช้สี The mail ระบายคัดเบ้า แต่คัดให้ถึงตรงหัวคิ้วเลย แล้วก็ลงขอบตาล่างด้วย
2. ใช้สี boxed ระบายช่วง v-shape ตรงหางตา เพื่อขยายรูปตาออกเล็กน้อยและให้เบ้าดูลึกค่ะ
3. ลงหางตาล่างจนเกือบถึงกลางตาดำ แล้วเอาแปรงหัวใหญ่ๆหย่อยเบลนด์ๆๆ
4. จะเห็นว่าตอนที่ยังไม่เขียนไลเนอร์ ตาดูตกมากเกินไป เราเลยเขียนเติมหางตาถึงกลางตาดำ เอาให้เป็นเส้นขนตาพอ
ไม่วิง ไม่เขียนตาตกอะไรทั้งนั้น
5. เขียนไลเนอร์วิ๊งของเมเบลลีน ที่หัวตาล่างลากมาถึงใต้ตาดำ แล้วก็เขียนลากตามรูปตาแต่เขียนข้างบน lash line ไม่เขียนทับนะ แล้วก็เน้นตรงตรงตาดำ เพื่อเน้นตาให้เด่นขึ้น
maybelline lovebag big eyes liner ตัวนี้ได้มาเป็นสี baby pink ค่ะ มันจะออกเหลือบๆชมพูหน่อย ไม่ได้ชมพูเลยซะทีเดียว
ตัวนี้ถ้าเทียบกับ Etude tear drops เราว่าพิกเม้นต์มันยังไม่ชัดเท่าอีทูดี้นะ มันจะเหลือบๆพอดี ไม่วิ๊งเวอร์ แต่ถ้าอยากวิ๊งจัดๆ ทาซักสองรอบค่ะ กำลังดี ค่อนข้างติดทนนะ เวลาล้างออกมันจะลอกเป็นฟิล์มค่ะ 


มาปัดมาสคาร่ากันเถอะ
มาสคาร่าตัวนี้ เนื้อค่อนข้างแห้งนะ แแต่ทำให้ขนตาดูฟูหนาเลย แต่เหมือนมันจะเป็นก้อนๆนิดนึง
เรื่องกันน้ำก็ดีเยี่ยมเหมือนเดิม เราชอบแปรงขนตาล่างมาก ขนตาล่างเป็นช่อๆสวยเลย ปัดซ้ำให้หนาได้ ไม่เลอะซักกะติ๊ด
ซอกซอนได้ดีเลย เลิฟมากกกกกก
ข้างซ้ายคือปัดแล้ว ขวายังไม่ปัด(ขออภัยที่กล้องไม่โฟกัส) จะเห็นว่าข้างขวาขนตาล่างมองแทบไม่เห็น
ขนตาบนเราเยๆนะ เพราะมันค่อนข้างจะเหมือนตัวอื่นๆของเมเบลลีน คือหนายาวตามมาตรฐานเค้าเลย
แต่ขนตาล่างนี่สิ ชอบมาก ดีมาก recommend เลย

             สร้างรอยกระปลอมเราเคยเห็นหลายคนใช้ดินสอเขียนคิ้วไม่ก็ไลน์เนอร์จิ้มๆเอา มันกลมๆไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่
เราเลยไปเจอบล็อคเกอร์ฝรั่งคนนึงเค้าสอนทำกระปลอม
            โดยการใช้มาสคาร่าสีน้ำตาลแต้มที่นิ้ว แล้วกดนิ้วเบาๆเข้าหากันและตบๆลงตามหน้า เราจะได้กระที่เนียนขึ้น เพราะขนาดจะไม่กลมไป และไม่เท่ากัน จะเป็นกระที่ดูกระจายๆหน่อย  เราเน้นโหนกแก้มนิดนึง แอบลงหน้าผากกะคางด้วย
เราแปะคลิปไว้ให้ละกันนะเผื่อไม่เข้าใจ



        เราลงบลัชโดยที่ใช้นิ้วแทนการใช้แปรงเพราะอยากให้สีกลืนเข้ากับผิว โดยเริ่มกดจากโหนกแก้ม และไล่ลงตามแนวที่ลงกระ   ส่งผลให้กระของเราดูเนียนขึ้น

เก็บช่วงขอบปาก ไม่ต้องเนี๊ยบปาก แค่ให้รูปปากเดิมของเราดูเข้ารูปสวยก็พอ
แล้วก็ลงลิปสีระเรื่อ ตัวนี้ให้ความชุ่มชื่น เราเอาลิปกดลงที่ปากแล้วใช้นิ้วกดๆอีกให้สีกระจายดูระเรื่อ
เสร็จแล้วววววว  รูปสดจากกล้องค่ะแบบใกล้ๆ เพราะรูปด้านล่าง เราจะโฟโต้ช็อป รัวๆ
เปิดแฟลช+ปรับสี กระหนูหายไปเลยอะ ฮือๆๆ


ขอบคุณที่เสียเวลามารับชมนะคะ เราอาจไม่ได้แต่งหน้าเก่งอะไร 
แค่อยากแชร์ของดีๆ กับทริคให้เพื่อนๆดูกัน
บางทีนึกลุคอะไรออกได้เราก็จะชอบลองแต่งเล่นดู
อาจจะไม่สวยเหมือนวาดไว้ทั้งหมด
และนี่ก็เป็น How to เต็มๆครั้งแรกของเรา
อาจจะทำได้ไม่ดีนัก
เราจะพยายามปรับปรุงให้มันดีขึ้นอีก
คิดซะว่ามาดูเพื่อนนั่งบ่น นั่งแต่งหน้าละกันเนอะ

เจอกัน How to หน้านะคะ เราคิดลุคได้ละล่ะ เหลือแค่ลงมือทำ ฮ่าๆ

Thanks for watching 
bye...